เทคนิคการเขียนเรซูเม...
อัพเดต : 2019-06-04 15:42:46
เข้าชม : 0
เห็นประกาศรับสมัครงานรับวุฒิป.ตรี เราก็คุณสมบัติตรง ไม่เห็นได้งานสักที หรือว่าต้องการคนที่มีประสบการณ์หลายๆ ปีเหรอ เราเพิ่งเรียนจบจะทำอย่างไร ? เราก็มีทักษะความสามารถที่เรียนมาเหมือนกัน ทำไมไม่เปิดรับเราบ้าง ?
ใจเย็นก่อนนะครับ น้องๆ จะได้งานในอีกไม่นานนี้แน่นอน ถ้าน้องไม่ใช่คนที่มี 3 ลักษณะต่อไปนี้ ไม่อยากตกงาน เช็คด่วนเลยครับ
1.เขียนเรซูเม่ไม่เป็น
เรซูเม่คือสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งแรกที่จะทำให้นายจ้างได้รู้จักเรา คนที่สามารถเขียนเรซูเม่ให้เห็นถึงทักษะและความสามารถพิเศษของตัวเองทั้งหมดได้ชัดเจน ย่อมเรียกความสนใจได้จาก HR และเพิ่มโอกาสให้ได้รับการเรียกสัมภาษณ์งานตามมา แต่น้องๆ ที่เพิ่งจบใหม่ส่วนใหญ่ จะเขียนแค่แนะนำตัวเอง ให้ข้อมูลว่าจบอะไรมา แต่ไม่มีการนำเสนอให้เห็นว่าทักษะและความรู้ที่เรียนมาจะสามารถนำมาสร้างประโยชน์อะไรให้กับองค์กรได้บ้าง แม้จะมีวุฒิ มีความสามารถมากแค่ไหนก็ตกงานได้นะครับ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้น้องๆ ทุกคนได้งานในเร็ววัน สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะเรซูเม่ที่ HR สนใจ ได้จากบทความนี้ครับ : https://jobbkk.com/go/r15gy
2.ไม่มีประสบการณ์
หลายคนอาจเกิดความสงสัย เพิ่งจบใหม่จะมีประสบการณ์ได้ไง ? การมีประสบการณ์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเคยทำงานในองค์กรอื่นๆ มาแล้วเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วประสบการณ์คือสิ่งที่ได้เรียนรู้มาตั้งแต่สมัยเรียน โดยเฉพาะกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ยิ่งถ้ามีการ่วมกิจกรรมบ่อยๆ ก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะมันสามารถบ่งบอกได้ว่าน้องๆ จะมีทักษะและคุณสมบัติอะไรบ้างที่ได้จากกิจกรรมนั้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่อาจจะหาไม่ได้จากในห้องเรียน แต่เป็นสิ่งที่ต้องนำมาใช้สำหรับการทำงานในองค์กร หรือที่เรียกว่า Soft Skill นั่นเอง ซึ่งนายจ้างส่วนใหญ่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขาดแคลนผู้ร่วมงานที่มีสิ่งเหล่านี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทักษะทางด้านภาษา , การสื่อสาร , การเป็นผู้นำ ,การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการทำงานเป็นทีม
นอกจากนี้ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากงานที่ได้ทำในช่วงฝึกงาน รวมถึงสหกิจศึกษาก็เป็นประสบการณ์ที่สำคัญ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงทักษะและคุณสมบัติที่น้องๆ มีได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ก็สามารถแนบรูปถ่ายในขณะที่ทำงานหรือรูปผลงานที่น้องๆ ทำไว้ไปในเรซูเม่ได้เลย แต่ถ้าไม่มีรูปถ่ายก็ต้องเขียนข้อมูลให้รายละเอียดว่าเคยทำงานอะไรมาบ้างและงานนั้นทำให้ได้ทักษะอะไรเพิ่มเติม หรือแม้แต่งานอดิเรก อย่างเช่น ชอบอ่านหนังสือหรือชอบเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่น้องๆ ต้องการสมัคร ก็ระบุเป็นงานอดิเรกไปในเรซูเม่ได้เลย เพื่อแสดงถึงความสนใจในตำแหน่งงานนั้นยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ก็นับเป็นประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งที่สามารถดึงดูด HR ให้สนใจในตัวน้องมากขึ้นได้เช่นกันครับ
3.เรียกเงินเดือนสูงเกิน
แม้จะมีวุฒิป.ตรี เกรดเฉลี่ยสูง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่สามารถการันตีถึงความสามารถในการทำงานให้กับองค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม น้องๆ ลองคิดว่าตัวเองเป็นนายจ้างดูนะครับ ระหว่างเลือกเด็กจบใหม่กับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว แต่ทั้งสองเรียกเงินเดือนไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งถ้าเลือกเด็กจบใหม่ก็อาจต้องใช้เวลาในการสอนงานมากกว่าและมีความเสี่ยงที่อาจจะต้องเสียเวลาให้เด็กจบใหม่ได้เรียนรู้งาน ซึ่งอาจจะเกินเวลาที่นายจ้างคาดหวังไว้ก็เป็นได้ ผลที่ตามมาก็คือต้องเสียเวลาจ้างพนักงานใหม่อีก แต่ความเสี่ยงจะน้อยกว่าถ้าเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ ถ้าเป็นแบบนี้น้องๆ จะเลือกใครครับ ?
อย่างไรก็ตาม คนที่มีความสามารถย่อมเป็นที่ต้องการของนายจ้างอยู่แล้ว แต่ตอนนี้น้องๆ อยู่ในสถานะเด็กจบใหม่ การเริ่มต้นทำงานนั้น เรื่องของเงินเดือนมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่ถ้ามีความสามารถในการเข้าไปพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าต่อไปได้จริง เงินเดือนที่น้องๆ ต้องการจะตามมาในไม่ช้าแน่นอนครับ
JOBBKK เชื่อว่าคนที่มีความตั้งใจที่อยากจะทำงานอย่างแท้จริง โอกาสได้งานย่อมอยู่ไม่ไกลแน่อน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความพร้อมที่จะทำงานกับองค์กรนั้นด้วย และเมื่อถึงวันที่ HR โทรมาเรียกไปสัมภาษณ์งาน ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะครับ