เทคโนโลยีกับงานบัญชี RPA และ AI กำลังเปลี่ยนบทบาทนักบัญชีอย่างไร

  • 23 พ.ย. 2568
  • 24
หางาน,สมัครงาน,งาน,เทคโนโลยีกับงานบัญชี RPA และ AI กำลังเปลี่ยนบทบาทนักบัญชีอย่างไร

 

ในอดีต งานบัญชีมักถูกมองว่าเป็นงานที่เน้นการบันทึกตัวเลข การจัดทำรายงาน และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่ทำซ้ำ (Repetitive tasks) และใช้เวลามาก แต่ปัจจุบันด้วยการเข้ามาของ เทคโนโลยี RPA (Robotic Process Automation) และ AI (Artificial Intelligence) ได้เปลี่ยนโฉมการทำงานด้านบัญชีไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้นักบัญชีไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้บันทึกข้อมูลอีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้วิเคราะห์และสร้างคุณค่าเชิงกลยุทธ์ให้กับองค์กร

 

1. RPA (Robotic Process Automation) กับงานบัญชี

RPA คือการใช้ซอฟต์แวร์ “หุ่นยนต์” เข้ามาทำงานที่มีรูปแบบซ้ำ ๆ ตามกฎเกณฑ์ เช่น

  • การบันทึกบัญชีรายวัน (Journal Entry)

  • การออกเอกสารใบแจ้งหนี้ (Invoice)

  • การกระทบยอดบัญชีธนาคาร (Bank Reconciliation)

  • การจัดทำรายงานภาษีประจำเดือน
     

ผลกระทบ

  • ความผิดพลาดจากการทำงานมนุษย์ (Human Error) ลดลงอย่างมาก

  • ความเร็วในการปิดบัญชีประจำเดือน (Month-end Closing) สั้นลงจาก 7–10 วัน เหลือเพียง 2–3 วันในหลายบริษัท

  • งานพื้นฐานของนักบัญชีถูกลดความสำคัญลง ทำให้ “คุณค่า” ของนักบัญชีจะไปอยู่ที่การวิเคราะห์และการวางแผนมากขึ้น
     

ตัวอย่างจริง
ธนาคารพาณิชย์และบริษัทข้ามชาติ เช่น Deloitte และ KPMG มีการนำ RPA มาใช้กับงาน AP/AR (Accounts Payable/Accounts Receivable) จนลดจำนวนพนักงานที่ทำงานด้านบันทึกข้อมูลลงได้กว่า 30%

 

 

2. AI (Artificial Intelligence) และการบัญชีเชิงวิเคราะห์

AI ไม่ได้แค่ทำงานซ้ำ ๆ แต่ยัง “เรียนรู้” จากข้อมูลได้ เช่น

  • การตรวจจับความผิดปกติ (Anomaly Detection) เช่น ตรวจสอบว่ามีการบันทึกค่าใช้จ่ายผิดปกติหรือไม่

  • การวิเคราะห์แนวโน้ม (Predictive Analysis) เพื่อคาดการณ์กระแสเงินสด รายได้ หรือความเสี่ยงทางการเงิน

  • การทำ Chatbot ด้านบัญชี ที่ช่วยตอบคำถามพื้นฐาน เช่น “ยอดภาษีที่ต้องจ่ายเดือนนี้เท่าไหร่” หรือ “ค่าใช้จ่ายแผนก X เกินงบหรือยัง”
     

ผลกระทบ

  • นักบัญชีจะไม่ใช่แค่ผู้บันทึก แต่จะกลายเป็น ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ที่ช่วยผู้บริหารตัดสินใจ

  • ลดความเสี่ยงการทุจริต เพราะ AI สามารถตรวจสอบธุรกรรมจำนวนมหาศาลได้เร็วกว่าทีมตรวจสอบมนุษย์
     

3. บทบาทใหม่ของนักบัญชีในอนาคต

แทนที่บทบาทของนักบัญชีจะหายไป เทคโนโลยีกลับ “ยกระดับ” บทบาทขึ้นไปอีกขั้น นักบัญชีควรปรับตัวใน 3 ด้านหลักคือ

  1. Data Analytics & Visualization

    • เรียนรู้เครื่องมือ เช่น Power BI, Tableau, Python เพื่อนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
       

  2. ที่ปรึกษาธุรกิจ (Business Partner)

    • นักบัญชีไม่ใช่แค่ปิดงบ แต่ต้องสื่อสารให้ผู้บริหารเข้าใจว่าตัวเลขบอกอะไร และจะนำไปใช้ตัดสินใจได้อย่างไร
       

  3. ความรู้ด้านเทคโนโลยี

    • ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเอง แต่ต้องเข้าใจการทำงานของ RPA/AI เพื่อสามารถประสานงานกับทีม IT ได้
       

 

4. ผลดี-ผลเสียจากการเปลี่ยนแปลง

  • ผลดี

    • งานซ้ำซ้อนหายไป ทำให้นักบัญชีมีเวลามากขึ้นในการวิเคราะห์และพัฒนาทักษะ

    • องค์กรได้งบการเงินที่รวดเร็ว แม่นยำ โปร่งใส

    • เกิดตำแหน่งงานใหม่ เช่น Accounting Data Analyst, Finance Transformation Specialist
       

  • ผลเสีย/ความท้าทาย

    • นักบัญชีที่ไม่พัฒนาทักษะ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่

    • ค่าใช้จ่ายด้านระบบและการเปลี่ยนผ่านสูง องค์กรขนาดเล็กอาจยังไม่พร้อม
       

ตำแหน่งงาน ที่กำลังเปิดรับสมัคร
สมัครงานสายงานบัญชีทั้งหมด

สมัครงานสายงานการเงิน

บทความอื่นๆ เกี่ยวกับงานสายบัญชี
อยากเป็น Auditor ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
แนะนำการเขียน Resume สำหรับสายงานบัญชี

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top