หัวจะปวด Gen Z กว่า 83% หมดไฟ แม้เงินเดือนสูง น้องๆ บอกขอวันหยุดเพิ่มดีกว่า!

  • 24 Jan 2025
  • 1803
หางาน,สมัครงาน,งาน,หัวจะปวด Gen Z กว่า 83% หมดไฟ แม้เงินเดือนสูง น้องๆ บอกขอวันหยุดเพิ่มดีกว่า!

 

หลายคนอาจคิดว่า “Gen Z อยากรวยกว่ารุ่นพ่อแม่และพร้อมทำงานหนัก” แต่ผลสำรวจสุดช็อก! พบว่า พนักงาน Gen Z มีความรู้สึกเหนื่อยล้าที่เพิ่มมากขึ้นในสายงาน Frontline เช่น ค้าปลีก การดูแลสุขภาพ และบริการ หรืองานที่มีข้อกำหนดตายตัวทั้งสถานที่และเวลาทำงาน 

 

ผลสำรวจล่าสุดจากบริษัท UKG ร่วมกับ Workplace Intelligence ที่น่าตกใจ! ความคิดเห็นจากพนักงานกว่า 13,000 คนใน 11 ประเทศ รวมถึงพนักงาน Gen Z อายุ 18-27 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังเริ่มต้นทำงานและต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ พบว่ากว่า 83% ของพนักงาน Gen Z ที่ทำงานในสายงาน Frontline รู้สึกหมดไฟแล้ว! ขณะที่พนักงานในกลุ่มเดียวกันที่ทำงานสายอื่นๆ ยังมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า

 

งานที่ยืดหยุ่น คือคำตอบของ Gen Z

Gen Z เติบโตมากับเทคโนโลยีในโลกไร้พรมแดน หรือโลกที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้การทำงานที่มีเวลาและสถานที่ตายตัวไม่ค่อยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงานมาก แต่ในสายงาน Frontline ที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home ได้เลย เมื่อไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจและมีทัศนคติไม่ดีต่องานในที่สุด

 

“เงินเพิ่ม” ไม่สำคัญเท่า “วันหยุดเพิ่ม”

ผลสำรวจที่น่าสนใจ! 58% ของพนักงาน Gen Z มองว่าการมีวันหยุดเพิ่มสำคัญกว่าการได้เงินเดือนสูงขึ้นซะอีก พวกเขารู้สึกว่าการได้พักจริงๆ ช่วยฟื้นฟูพลัง ลดความเครียด เพื่อทำให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ อีก 29% ก็ยอมสละโอกาสเลื่อนตำแหน่งเพื่อแลกกับวันหยุดเพิ่มอีกหนึ่งสัปดาห์ 

 

Gen Z มองว่า งานไม่ควรแลกมาด้วยสุขภาพ! พวกเขายอมให้ความสำคัญกับวันหยุดและการดูแลสุขภาพมากกว่าเงินเดือนสูงๆ เพราะรู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีความสุขและสุขภาพที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น 36% ของพวกเขาบอกเลยว่า ถ้างานทำให้สุขภาพแย่ลง พวกเขาก็พร้อมที่จะลาออกทันที!

 

การหมดไฟ ในกลุ่มพนักงาน Gen Z

การหมดไฟ (Burnout) ไม่ใช่ปัญหาของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่สำหรับ Gen Z ที่เพิ่งเริ่มทำงานในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลับพบว่าพวกเขารู้สึกหมดพลังเร็วและแรงกว่าที่คิด! สัญญาณที่น่าเป็นห่วงคือ Gen Z รู้สึกรับมือไม่ไหวแล้วกับความเครียด ความเหนื่อยล้าในที่ทำงาน เพราะต้องทำงานตามเวลาที่กำหนด ไม่มีความยืดหยุ่น และที่สำคัญ ไม่มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ!

การหมดไฟไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนตัว แต่มันยังสะท้อนถึงความท้าทายใหญ่ขององค์กรในการรักษาพนักงาน ถ้าบริษัทไม่ปรับตัว ก็อาจเสี่ยงที่จะสูญเสียพนักงานที่มีศักยภาพไปอย่างน่าเสียดาย

 

ปรับตัวเพื่อรักษาพนักงาน Gen Z

อยากรักษาพนักงาน Gen Z ไว้? องค์กรต้องเข้าใจพวกเขาจริงๆ บริษัทต้องปรับตัวเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะกับ Gen Z และทำให้พวกเขารู้สึกว่าอยากอยู่ที่นี่!

✅ เพิ่มความยืดหยุ่นในเวลาทำงาน – หากเป็นไปได้ ควรปรับเวลาทำงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น หรือเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเลือกเวลาเข้าทำงานได้ตามสะดวก

✅ จัดสรรวันหยุดพักผ่อนอย่างเพียงพอ – การให้วันหยุดที่เพียงพอจะช่วยให้พนักงาน Gen Z มีเวลาในการพักผ่อนและกลับมาทำงานได้เต็มที่

✅ ใส่ใจด้านสุขภาพจิตและกาย – จัดสรรโปรแกรมช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต หรือสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อป้องกันการหมดไฟ

✅ สร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา – Gen Z ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง องค์กรสามารถเสริมโปรแกรมฝึกอบรมหรือโอกาสในการพัฒนาทักษะให้มากขึ้น

 

Gen Z มีสไตล์การทำงานที่แตกต่างจาก รุ่นอื่นๆแบบสุดๆ หากอยากทำงานร่วมกันแบบ Win-Win องค์กรต้องเปิดใจคุยตรง ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่น้อง ๆ ต้องการ และบอกสิ่งที่องค์กรต้องการอย่างชัดเจน เพื่อให้การทำงานราบรื่นและเกิดความพอใจทั้งสองฝ่าย

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ

จาก https://www.ukg.com/about-us/newsroom/ukg-83-gen-z-frontline-employees-are-burned-out-work-over-one-third-may-quit

และ https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1134671

 

สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : hrbuddybyjobbkk@gmail.com

อัปเดตความรู้สำหรับคนหางาน คนทำงาน สามารถติดตามได้ที่ https://jobbkk.com/go/kr0ws

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top